แบล็คแจ็ค คือเกมการพนันที่มีกฎกติการเล่นที่น่าสนใจและมีความท้าทาย เล่นอย่างไรให้ชนะแบบเซียน

เกมไพ่แบล็คแจ็คเป็นที่นิยม เพราะมีกฎเกณฑ์การเล่นที่ซับซ้อนและต้องใช้สมาธิในการตัดสินใจ เป็นเกมที่ไม่เพียงแต่การวัดดวงเท่านั้น แต่ต้องการการวางแผนและตัดสินใจที่ถูกต้องเพื่อชนะ

สำหรับประวัติศาสตร์ของเกมไพ่แบล็คแจ็ค (Blackjack) มีที่มาจากประเทศฝรั่งเศส โดยเริ่มแรกเรียกว่า vingt-et-un หรือ 20 หรือ 21 ในภาษาฝรั่งเศส รูปแบบของเกมนี้คือการแจกไพ่ให้กับผู้เล่นและเจ้ามือ และเล่นเพื่อให้ได้แต้มรวมในมือมากที่สุด โดยไม่เกิน 21 แต้ม และมีการเปิดตัวอย่างกว้างขวางในประเทศอเมริกาในปี คริสต์ศักราช 1800 ซึ่งตอนแรกไม่ได้รับความนิยมมากนักในคาสิโน แต่เมื่อมีการเสนอการจ่ายผลตอบแทน 1 ต่อ 10 หากชนะด้วยแต้มแบล็คแจ็คในไพ่ 2 ใบแรก เกมนี้ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น

การเล่นแบล็คแจ็ค ก่อนหน้านี้ได้รับความนิยมในการเล่นพนันคาสิโนในเนวาด้าตั้งแต่ปี คริสต์ศักราช 1931 โดยการเล่นได้ถูกกฎหมายและมีการเปิดตัวในบ่อนคาสิโนลาสเวกัส เป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นแบล็คแจ็คในคาสิโน ในระดับเต็มรูปแบบ รวมถึงการนำแบล็คแจ็คมาเป็นรูปแบบของเกมคาสิโนออนไลน์บนหน้าเว็บ ที่มีบริการจากค่ายต่างๆ

กฎกติกาของเกมไพ่แบล็คแจ็ค (Blackjack Rules)

มีความคล้ายคลึงกับเกมไพ่ป๊อกเด้งที่เป็นการแข่งขันแต้มบนมือระหว่างเจ้ามือและผู้เล่น โดยฝั่งที่มีแต้มสูงกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ แต่เป้าหมายของเกมแบล็คแจ็คไม่ได้มุ่งหวังการจั่วให้ได้ 21 แต้มเท่านั้น แต่เน้นไปที่การเอาชนะเจ้ามือผ่านกลยุทธ์ต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ การจั่ว การแยกไพ่ เป็นต้น การใช้แผนการเป็นส่วนสำคัญในการเล่นแบล็คแจ็ค

เกมนี้ต้องการการนับแต้มของไพ่อย่างถูกต้องโดยผู้เล่นจะต้องเรียนรู้เลขและสูตรการนับไพ่แบล็คแจ็คเพื่อคำนวณผลรวมบนไพ่และตัดสินใจใช้เคล็ดลับต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ ผลรวมของแต้มในมือต้องใกล้เคียงกับ 21 แต้มและต้องมากกว่าแต้มของเจ้ามือ โดยไม่เกิน 21 แต้ม

การนับแต้มบนไพ่ในเกมแบล็คแจ็คมีกฎเหล่านี้

• A มีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11
• ไพ่รูปภาพ J, Q, K มีค่าเท่ากับ 10
• ไพ่เลขมีค่าตามหน้าไพ่นั้น
• ไพ่ A และไพ่ที่มีค่าเท่ากับ 10 ใบแรกเรียกว่า "แบล็คแจ็ค"
• หากผลรวมของไพ่ใกล้ 21 มากที่สุดจะชนะ
• ถ้าผลรวมเกิน 21 จะเสีย
• ถ้าผลรวมเท่ากัน 17-21 จะเสมอและคืนเงินพนัน

รูปแบบการเล่นเกมแบล็คแจ็คมีดังนี้

• ยืน / Stand

• รับไพ่เพิ่ม / Hit

• เบิกเงินเพิ่ม / Double

• แยกคู่ / Split

• ประกัน / Insurance

เลือกที่จะ "ยืน" หรือ Stand เป็นการปิดรับไพ่เพิ่มเมื่อผู้เล่นพอใจกับคะแนนที่มีอยู่หรือกลัวว่าการรับไพ่เพิ่มอาจทำให้คะแนนเกิน 21 ผู้เล่นควรพิจารณา "ยืน" ในสองกรณีต่อไปนี้

"ยืน" เมื่อมีความเชื่อมั่นว่าเจ้ามืออาจเกินคะแนน 21 เมื่อผู้เล่นมองไพ่ของเจ้ามือแล้วเห็นว่าอาจต้องการจั่วไพ่เพิ่มเพื่อไม่ให้เกิน 21 ในกรณีนี้ ผู้เล่นควรพิจารณาไม่รับไพ่เพิ่มเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกินไปเอง

"ยืน" เมื่อมองไพ่ที่มือแล้วคาดเดาว่าอาจจะมีคะแนนสูงกว่าเจ้ามือ โดยเฉพาะเมื่อผู้เล่นมีแต้มรวมอยู่ที่ 17 หรือเมื่อมองไพ่เจ้ามือแล้วเห็นว่ามีไพ่ 7+A ในกรณีนี้ ผู้เล่นควรพิจารณาเลือกที่จะยืนเพื่อมีโอกาสทำให้เจ้ามือเกินคะแนนมากกว่าเองและลดความเสี่ยงในการเกินไปด้วยการรับไพ่เพิ่ม

เลือกที่จะ "จั่ว" หรือ Hit เป็นการขอไพ่เพิ่มเพื่อเพิ่มคะแนนในมือ สามารถขอไพ่เพิ่มได้หลายครั้งจนกว่าจะเลือก "ยืน" หรือเกิน 21 แต้ม สำหรับผู้เล่นควรพิจารณาการ "จั่ว" ในสองกรณีต่อไปนี้

เมื่อ "จั่ว" แล้วคะแนนไม่เกิน 21 แต้ม นั่นหมายความว่าเมื่อผู้เล่นมีคะแนนน้อยกว่า 9 แต้ม เพราะการได้ไพ่ A สูงสุดจะไม่ทำให้เกิน 21 แต้ม

"จั่ว" เมื่อเจ้ามือคาดว่าจะได้ 17 แต้มขึ้นไป ในกรณีที่ผู้เล่นมองไพ่หงายแล้วเห็นว่าเจ้ามือคาดว่าจะได้ 17 แต้มขึ้นไป และคะแนนรวมของผู้เล่นมากกว่า 17 แต้ม ในกรณีนี้ เราควรพิจารณาการ "จั่ว" เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้คะแนน 17 แต้มขึ้นไป

เลือกที่จะ "เบิ้ล" หรือ Double Down เป็นการเพิ่มการเดิมพันเป็นสองเท่า โดยขอได้ครั้งเดียวตอนเริ่มตาใหม่ และได้รับไพ่เพิ่มอีกหนึ่งใบ การ "เบิ้ล" มีเงื่อนไขดังนี้

เมื่อ "เบิ้ล" แล้วไม่เกิน 21 แต้ม นั่นหมายความว่าเมื่อผู้เล่นมีคะแนนไม่เกิน 11 แต้ม หรือมี Soft Totals (มีไพ่ A มาผสม) ในบางกรณี ผู้เล่นสามารถเบิ้ลเดิมพันได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิน

มีโอกาสในการได้แต้มสูงโดยเพิ่มไพ่เพียงหนึ่งใบ เช่น เมื่อผู้เล่นได้ไพ่เพิ่มอีกหนึ่งใบและมีโอกาสได้ 17 แต้มขึ้นไปและไม่เกิน 21 แต้ม (เช่น 9-11 แต้ม) ในกรณีนี้ ผู้เล่นควรพิจารณาการ "เบิ้ล" เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้กำไร

ทำการ "แยก" หรือ Split เป็นการขอแยกไพ่และลงพนันเพิ่มเป็น 2 ขา โดยเป็นไปตามเงื่อนไขว่าผู้เล่นได้ "ไพ่คู่" หรือไพ่ที่มีแต้มเท่ากัน 2 ใบ การตัดสินใจว่าจะแยกหรือไม่แยกขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเปิดไพ่บนโต๊ะ เช่น

เมื่อ "แยก" แล้วมีโอกาสได้ 21 แต้มในขาใหม่ เป็นไปได้เฉพาะเมื่อผู้เล่นได้คู่ A , A เท่านั้น

การ "แยกไพ่" ทำให้มีโอกาสได้แต้มสูงขึ้นในขาใหม่ เช่น

ถ้าผู้เล่นมี 20 แต้มจากการได้คู่ 10,10 ผู้เล่นควรเลือกที่จะอยู่ แทนที่จะแยก แต่ถ้าผู้เล่นมี 16 แต้มจากคู่ 8,8 การแยกเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะมีโอกาสได้แต้มสูงขึ้นเป็น 18 แต้ม

การ "รับรอง" หรือ Insurance ในเกมไพ่ Blackjack เป็นการซื้อประกันหากเจ้ามือได้ "แบล็คแจ็ค" หรือ Natural Blackjack (เจ้ามือหงายไพ่ A) การซื้อประกันคือการลงเงินครึ่งหนึ่งของการเดิมพันเริ่มต้นเพื่อซื้อประกัน หากเจ้ามือได้แบล็คแจ็คจริง ผู้เล่นจะได้รับการชำระเงิน 2 เท่าของเงินที่ซื้อประกันหรือไม่เสียเงินในเกม แต่หากเจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค ผู้เล่นจะเสียเงินที่ซื้อประกันไป การวางประกันในเกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์บนเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์มักพบว่าผู้เล่นมักจะเสี่ยงเสียเงินมากกว่าการไม่ซื้อ และบางครั้งการซื้อประกันมักจะไม่เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าเพราะเสี่ยงเสียมากขึ้น ดังนั้นการตัดสินใจที่จะซื้อประกันในเกม Blackjack ควรพิจารณาดูไพ่ในมือของผู้เล่นและเจ้ามือก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกันไพ่

สัดส่วนการจ่ายเงินในเกม Blackjack ที่ควรรู้

บริการ Blackjack ออนไลน์ที่เปิดให้บริการบนเว็บไซต์คาสิโนชั้นนำมีการรับประกันว่าจะมีการจ่ายเงินในเกม Blackjack อย่างมากที่สุด มีระบบถ่ายทอดสดที่มีคุณภาพสูงในการเปิดไพ่โดยเดี๋ยวเลอร์ผ่านช่องทางสัญญาณ HD มีตัวเลือกให้ลูกค้าลองเล่น Blackjack ฟรีก่อนฝากเงินและมีเกมไพ่อื่นๆ ให้เลือกเล่นอีกหลายเกม สำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบการเล่นเกม Blackjack เรามุ่งเน้นให้การจ่ายเงินรางวัลดังต่อไปนี้

การชนะมือจะได้รับการจ่ายเงินอัตรา 1:1

การทำประกันจะได้รับการจ่ายเงินอัตรา 1:2

ในการเล่นแบล็คแจ็ค การชนะจะได้รับการจ่ายเงินอัตรา 2:3

การเดิมพันไพ่คู่หรือผสมจะได้รับการจ่ายเงินอัตรา 1:6

การเดิมพันไพ่สีจะได้รับการจ่ายเงินอัตรา 1:12

การเดิมพันไพ่คู่เพอร์เฟคจะได้รับการจ่ายเงินอัตรา 1:25

สำหรับสมาชิกที่สนใจเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็ค สามารถเข้าร่วมเล่นได้ที่เว็บ BETFLIX828 ที่มีโปรโมชั่นสำหรับสมาชิกใหม่ 100% และโปรโมชั่น 29 รับ 100 โดยสามารถรับเครดิตฟรีทุกวันเที่ยงคืนจากค่าคอมมิชชั่น สำหรับเกมสล็อต บาคาร่า ยิงปลา และกิจกรรมรับเครดิตฟรีอื่นๆ อีกมากมายค่ะ